อ้างชุดดำตัดสัญญาณ กสท เป้าปิดสื่อม็อบ

Admin

“บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์” แฉชุดดำตัดสัญญาณ กสท บางรัก ลั่นรัฐปิดสื่อฝ่ายประชาชน ย้ำตกยุคคุมสื่อหวังปิดเกม แต่แพ้ทางสมาร์ทโฟน-โซเชียลมีเดีย

วันที่ 30 พ.ย. เวลา 19.45 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลจากชาวบ้านย่านบางรัก ว่ามีกลุ่มชายชุดดำคลุมหน้า ขับขี่มอเตอร์ไซค์จำนวนนับร้อยไปทำการตัดสายโดเมนสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่บริษัท กสท โทรคมนาคม (CAT) จำกัด (มหาชน) สำนักงานบางรัก จนเป็นเหตุให้การรับชมช่องโทรทัศน์บลูสกาย เอเอสทีวี ทีนิวส์ และช่องอื่นๆ ที่รายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุม รวมไปถึงเว็บไซต์ของสื่อหนังสือพิมพ์เช่น ผู้จัดการ แนวหน้า ทีนิวส์ (เว็บไซต์) ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ และรวมถึงเว็บไซต์ของ กสท โทรคมนาคมเองก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้

นายบุญยอด กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข้าราชการผู้ใหญ่ได้ส่งข้อมูลมาให้ตนว่า ฝ่ายรัฐบาลพยายามเข้าควบคุมการนำเสนอข่าวสารผ่านทางสื่อของรัฐโดยใช้สงครามจิตวิทยามวลชน โดยควบคุมเนื้อหาการนำเสนอข่าวสารทางสื่อฟรีทีวี และสื่อรัฐไปในทิศทางเดียวกันคือ ให้เน้นย้ำถึงความเสียหาย ความผิดทางกฎหมาย ขู่ประชาชนว่ามีโทษจำคุก โดยการการแถลงเป็นระยะๆ พร้อมการนำเสนอข่าวการชุมนุมเสื้อแดง ภาพมวลชนจำนวนมากที่สั่งการให้ผู้ว่าฯ หรือ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจัดระดมมวลชนมาสนับสนุนรัฐที่ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่สำคัญ และนำภาพข่าวมาเสนอประกอบทีวีพูล

โดยแต่ละจังหวัดจะต้องขึ้นคัตเอาต์ ต่อต้านสภาประชาชน ว่าที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ทีวีช่อง 9 ช่อง NBT เปิดเกมรุกฝ่ายประชาชนมากกว่านี้ เช่น การนำเสนอข่าวมวลชนเสื้อแดงในช่วงเวลาที่แกนนำ กปปส. พูด และช่วงคนพีค ไม่ใช่เวลาช่วงเช้า รวมถึงการนำนักวิชาการ และแกนนำสำคัญของฝั่งรัฐ วิจารณ์ความผิดของการเสนอเรื่องสภาประชาชนโดยการเพิ่มการออกข่าวฝั่ง สนับสนุนรัฐทุกต้นชั่วโมงที่สำคัญคือ สั่งการให้ทีมโฆษกรัฐบาลประสานงานกับ ศอ.รส. เพื่อเสนอข่าวสารด้านสนับสนุนรัฐบาลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ดังนั้นการใช้อำนาจรัฐควบคุมสื่อสารมวลชน ถือเป็นรัฐบาลที่ตกยุค และจะพ่ายแพ้ต่อสื่อสมัยใหม่ในโซเชียลมีเดียทางสมาร์ทโฟน เพราะปิดฟ้าด้วยฝ่ามือไม่ได้เช่นอดีตอีกแล้ว จะยิ่งทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมเพราะรัฐบาลล้มละลายในความเชื่อถือของประชาชนแล้ว

ที่มา – ไทยรัฐออนไลน์